“จำปีศรีเมืองไทย” พันธุ์ไม้ยุคดึกดำบรรพ์ ดอกจิ๋วน่ารัก กลิ่นหอม ในผืนป่าน้ำหนาว

“จำปีศรีเมืองไทย” มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Magnolia thailandica Noot. & Chalermglin อยู่ในวงศ์ Magnoliaceae เป็นพันธุ์ไม้ยืนต้นดอกหอมในวงศ์จำปา ถูกค้นพบครั้งแรกเมื่อปีพ.ศ. 2543 โดย ดร.ปิยะ เฉลิมกลิ่น ผู้เชี่ยวชาญพิเศษสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย และได้รับการตีพิมพ์ลงในวารสารบลูเมีย (Blumea) วารสารการจำแนกพันธุ์ไม้นานาชาติของเนเธอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2545
จำปีศรีเมืองไทย มีลักษณะพิเศษกว่าไม้วงศ์จำปาพันธุ์อื่นๆ คือเป็นพันธุ์ไม้ที่อยู่ในยุคดึกดำบรรพ์ เพราะเป็นสายพันธุ์เดียวกับสายพันธุ์ที่ติดมากับฟอสซิลไดโนเสาร์ที่นักโบราณคดีเคยค้นพบ เป็นพืชที่มีวิวัฒนาการต่ำที่สุดในตระกูลไม้วงศ์จำปา เนื่องจากมีดอกแยกเพศเป็นดอกเพศผู้และเพศเมีย ถ้าดอกของต้นใดต้นหนึ่งบานไม่พร้อมกัน ก็จะไม่มีโอกาสผสมพันธุ์ ทำให้เป็นพืชเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์อย่างมาก
จำปีศรีเมืองไทย เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ ทรงพุ่มสวย มีความสูงได้ถึง 20-30 เมตร มีกิ่งเล็กจำนวนมาก เรือนยอดกลม ตามกิ่งมีช่องอากาศเป็นจุดประกายสีขาว เนื้อไม้เหนียว จะออกดอกในช่วงเดือน เมษายน-พฤษภาคม มีลักษณะดอกเดี่ยวขนาดจิ๋ว ดอกตูมรูปไข่ปลายแหลม มีกาบหุ้มดอกสีเขียวเคลือบขาว 1 แผ่น และจะหลุดออกไปเมื่อดอกแรกแย้ม เมื่อดอกบานจะมีกลิ่นหอมไปทั่วบริเวณ ดอกสามารถบานอยู่ได้ 1-2 วัน
สำหรับต้นที่อยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว จะอยู่ในเส้นทางศึกษาธรรมชาติเส้นทางที่ 2 ในระยะทาง 3 กม. เป็นเส้นทางที่จัดไว้สำหรับให้นักท่องเที่ยว นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ได้เดินทัศนศึกษาเรียนรู้ความหลากหลายของธรรมชาติ เพื่อให้ผู้ที่เดินศึกษาธรรมชาติได้เกิดความรัก ความหวงแหน และรู้สึกภาคภูมิใจ อันนำมาซึ่งการมีส่วนร่วมในการช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ให้อยู่คู่ไทยสืบไป
อ้างอิง : หนังสือพิมพ์มติชน วันที่ 21 ก.พ.2546 ปีที่ 26 ฉบับที่ 9114 หน้า 1,10
ภาพ : นายสมเกียรติ กาติ๊บ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว