สร้อยสยาม พบครั้งแรกบนเทือกเขาภูเมี่ยง อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก เมื่อปี 2544
สร้อยสยาม สายสีชมพูย้อยระย้าสวยงาม พบครั้งแรกบนเทือกเขาอำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลกชื่อวิทยาศาสตร์ : Phanera siamensis (K.Larsen & S.S.Larsen) Mackinder & R.Clark
วงศ์ : Fabaceae
เป็นพืชในกลุ่มเสี้ยวหรือชงโค มีชื่อเรียกอีกอย่างคือ “ชงโคสยาม” หรือ “เสี้ยวแดง” เป็นไม้เลื้อยเนื้อแข็ง สามารถเลื้อยได้ไกลถึง 15 เมตร กิ่งอ่อนมีขนสีน้ำตาลแดง ใบรูปทรงกลมถึงรูปไข่กลับ ใบประดับรูปใบหอก แฉกลึกคล้ายใบต้นชงโคทั่วไป ช่อดอกห้อยลง สีชมพูหรือสีชมพูแกมแดง ออกดอกช่วงฤดูหนาวช่วงเดือนตุลาคม-มกราคม
พบครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2544 ในเทือกภูเมี่ยง บ้านดง ท้องที่อำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก โดยนายธวัชชัย วงศ์ประเสริฐ
ในปี พ.ศ. 2545 สร้อยสยามได้รับการตั้งชื่อเป็นพันธุ์ไม้ชนิดใหม่ของโลก โดยศาสตราจารย์ ดร. Kai Larsen และอาจาย์สุพีร์ ศักดิ์สุวรรณ ลาร์เสน แห่งมหาวิทยาลัยออร์ฮุสเดนมาร์ก ตีพิมพ์ในวารสาร Natural Society เล่มที่ 59 หน้า 104 ค.ศ. 2002 ใช้ชื่อพฤกษศาสตร์ว่า Bauhinis siamensis
"siamensis" ตั้งตามชื่อประเทศสยาม ชื่อเดิมของประเทศไทย สถานที่ที่พบพรรณไม้ชนิดนี้เป็นครั้งแรก ซึ่งแสดงถึงถิ่นกำเนิดว่าอยู่ในประเทศไทย (สยาม)
ปัจจุบันสามารถพบดอกสร้อยสยามในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเมี่ยงและภูทอง อุทยานแห่งชาติน้ำตกชาติตระการ อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า และในพื้นที่บริเวณใกล้เคียงที่มีระบบนิเวศเดียวกัน
อ้างอิงข้อมูล : สำนักวิจัยการอนุรักษ์ป่าไม้และพันธุ์พืช https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=6690553600985559&id=956078261099817&mibextid=Nif5oz
ภาพ : กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และนายศราวุฒิ ทองเมือง เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า